5 Easy Facts About ขุนพันธ์ Described

วิเคราะห์การปราบเสือของ ‘ขุนพันธ์’ ตำรวจจอมขมังเวทย์ ได้ผลอย่างไร? สะท้อนถึงอะไร?

ในภาคนี้อาคมติดตัวของขุนพันธ์ได้เสื่อมลงอันเป็นจุดจบแห่งความหนังเหนียว ที่น่าสนใจคือเนื้อเรื่องหลักส่วนนี้ยังอุปมาความเสื่อมที่ขุนพันธ์สัมผัสได้จากเลือดเนื้อของตนเองไปถึงเครื่องแบบตำรวจ จากที่เคยเชื่อว่าตนเองเป็นความยุติธรรมปราบเสือ สู่การมองเห็นตนเองในฐานะ เครื่องจักรสังหาร ที่อนุมัติใบสั่งฆ่าโดยรัฐอย่างถูกกฎหมาย หนำซ้ำยังช่วยระบบกดขี่การเรียกร้องประชาชนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พอรู้ความจริงอีกแบบจึงกระทบต่อศรัทธาในเครื่องแบบของตน เครื่องแบบในฐานะความเชื่อของขุนพันธ์จึงเสื่อมไปด้วย จนไปถึงขุนพันธ์หันกลับไปถือสัจจะข้างโจรพิทักษ์ชุมเสือจากกำลังส่วนกลาง ความเสื่อมทั้งร่างกายและความเชื่อของขุนพันธ์ได้สรุปในภาพยนตร์จนถึงฉากสุดท้ายที่ขุนพันธ์เองกำลังจะเดินไปหาเสียงปืนปริศนาด้วยชุดธรรมดาไม่มีเครื่องแบบตำรวจอีกต่อไป รวมถึงเขาเองก็ไม่มีอาคมคงกระพันอีกต่อไปเช่นกัน

ตำบลดอนตะโก อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

นักอนุรักษ์ห่วงสวัสดิภาพหมึกยักษ์ หลังสเปนจะเปิดฟาร์มแรกของโลก

โดยที่ผู้มีอำนาจใหม่อย่างคณะราษฎรนั้นก็เป็นพวกที่ต้องการสนับสนุนบทบาทสามัญชนอยู่ด้วย จากประวัติของขุนพันธ์ที่เล่นคุณไสยจนในหมู่โจรบางส่วนก็เรียกว่า ‘อาจารย์’ นำไปสู่การเมืองภายในวงการสีกากีในช่วงหนึ่ง มีเพื่อนร่วมอาชีพใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นโจร 

ลักษณะเด่นของ ‘ขบถผู้มีบุญ’ จะเป็นเรื่องการอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของผู้นำ  ซึ่งการอ้างอย่างนี้มีในหมู่ชนชั้นสูงอยู่ก่อนแล้ว  ความเป็นระบบระเบียบมีขื่อแปของสังคมในส่วนนี้จะหมายถึงการห้ามไม่ให้ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปสามารถอ้างกฤดาภินิหารได้ ชนชั้นปกครองอ้างได้ฝ่ายเดียว ‘ขบถผู้มีบุญ’ มีความแมสและเปิดเผยกว่า ‘เสือ’ จึงง่ายที่จะถูกนำกำลังเข้าปราบปราม  เสือมีความยืนหยุ่นกว่า  เพราะมักจะพัฒนามาจาก ‘นักเลง’

‘คนแบดๆ’ มีทุกยุคสมัย ทุกชั้นวรรณะ แต่ไม่ทุกสมัยและไม่ทุกคน ที่คนแบบนี้จะถูกอวยยศให้เป็น ‘เสือ’ นอกจากนี้ ‘เสือ’ ในฐานะที่เป็นคนนอกกฎหมาย  ยังเทียบได้กับ ‘ขบถ’ อีกด้วย ภายใต้สังคมที่มีลำดับชั้นและกฎเกณฑ์ทุกสิ่งอย่างดูจะสนับสนุนส่งเสริมให้คนระดับล่างไม่อาจขัดขืนกับคนระดับบนได้ตามระบบปกติ  ก็จะเป็นเรื่องปกติธรรมดาอีกเช่นกันที่ ‘ความรุนแรง’ จะกลายเป็นอำนาจสุดท้ายที่ถูกนำเอามาใช้ 

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเหลือเกิน หากว่าระบบผูกขาดและโรงหนังยังมีอิทธิพลในการจัดรอบฉายหนังตามอำเภอในเช่นนี้อยู่ เพราะมันย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือหนึ่งในการขัดแข้งขาและเหนี่ยวรั้งศักยภาพของหนังไทย จนทำให้หนังหลายต่อหลายเรื่องไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร

‘ขุนพันธ์’ หรือ ‘พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช’ ได้รับการกล่าวขานว่า เป็น ‘ตำรวจจอมขมังเวทย์’ และถูกยกย่องให้เป็น ‘มือปราบเสือ’ แล้วการปราบเสือได้ผลออกมาอย่างไร? และสะท้อนอะไรบ้าง?

ชุมพร เทพพิทักษ์ รับบทเป็น คนแจวเรือ

วีรบุรุษใหม่ในยุคไร้วีรบุรุษ & เหล้าใหม่ในขวดเก่า (หรือไม่?)  

must assessment the security website of the connection just before proceeding. Ray ID: 7aadd8f20bc978db

‘บุตร พันธรักษ์’ เป็นชื่อเดิมของ ‘พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ขุนพันธ์ 

ครั้งหนึ่งเคยมีคำขวัญอันคมคายของกรมตำรวจอยู่ประโยคหนึ่งว่า "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้" นี่เป็นถ้อยคำที่เกิดขึ้นในยุคอัศวินแหวนเพชรเฟื้อง ในสมัยของท่านอธิบดีฯ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ปกครองกรมตำรวจ วีรบุรุษผู้สร้างเกียรติประวัติให้กรมตำรวจนั้นมีอยู่มาก มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ในยุคสมัยที่ท่าน อธิบดีกรมตำรวจหลวงอดุลย์เดชจรัสนั้น.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *